ยิงสลุตหลวง 21 นัด ถวายความเคารพ

การยิงสลุต (อังกฤษ: gun-salute) คำว่า “สลุต” นั้นมาจากรากศัพท์ของคำว่า “Salutio” ในภาษาลาติน จุดเริ่มต้นของธรรมเนียมการยิงสลุตนี้กล่าวกันว่า ในสมัยโบราณ เรือสินค้าที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลในระยะทางไกลจำเป็นที่จะต้องมีปืนใหญ่ไว้คุ้มครองสินค้าบนเรือ และจะต้องมีการบรรจุดินปืนในกระบอกปืนไว้ก่อนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน แต่เมื่อเรือได้เดินทางไปถึงท่าเรือของประเทศที่เรือลำดังกล่าวต้องเข้าไปทำการค้าด้วย จึงต้องยิงปืนใหญ่ที่บรรจุแต่ดินปืนออกไปให้หมดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่ามาอย่างมิตร มิใช่ศัตรู ตั้งแต่นั้นมาจึงได้เกิดเป็นประเพณีการยิงสลุตขึ้น เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อกันระหว่างเจ้าบ้านและผู้มาเยือน อันเป็นประเพณีที่ชาวเรือได้สืบทอดกันต่อมา

ตามธรรมเนียมของทหารเรือ การยิงสลุตจำนวน 21 นัดจะยิงเพื่อเป็นเกียรติยศแก่ประมุขแห่งรัฐ จำนวนกระสุนที่ใช้ยิงสลุตจะลดหลั่นลงมาตามลำดับยศของนายทหารและข้าราชการผู้รับการสลุต กรณีที่มีการยิงสลุตจำนวนมากกว่า 21 นัด จะยิงขึ้นในโอกาสพิเศษเท่านั้น

ตัวอย่าง....

เรือหลวงปิ่นเกล้า' ยิงสลุตหลวง 21 นัด ถวายความเคารพ 'ในหลวง' เสด็จประทับวังไกลกังวล

เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่กระทรวงกลาโหม น.อ.วิพันธ์ ชมะโชติ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้กองทัพเรือยิงสลุตหลวงในระหว่างเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเวลา 16.00 น. วันนี้ หมู่เรือรักษาการณ์วังไกลกังวล ได้จัดเรือหลวงปิ่นเกล้า เป็นเรือยิงสลุตหลวง เพื่อถวายคำนับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 21 นัด ใช้ปืนประจำเรือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้อง ขนาด 3 นิ้ว 3 กระบอก ทำการยิงสลุตไล่ตามลำดับจากปืนหัวเรือ กลางลำเรือ ไปจนถึงปืนท้ายเรือ สลับกันจนครบ 21 นัด แต่ละนัดห่างกัน 5 วินาที โดยเรือหลวงปิ่นเกล้าจะลอยลำห่างชายฝั่งประมาณ 1,500 -1,800 หลา ยิงสลุตหลวงตั้งฉากกับวังไกลกังวล โดยเรือหลวงปิ่นเกล้ามีน.ท.ประสพชัย อยู่สำราญ เป็นผู้บังคับการเรือ